ข้อมูลบริษัท
บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) ที่มีความหลากหลาย ทันสมัย เน้นคุณภาพ ในราคาที่ย่อมเยาเป็นหลักภายใต้ชื่อทางการค้า
โดยสินค้าที่จำหน่ายส่วนใหญ่เป็นสินค้าภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ ซึ่งมีการออกแบบเพื่อจำหน่ายในร้าน Moshi Moshi โดยเฉพาะ (Exclusive)
Moshi Moshi มีทั้งหมด 158 สาขา ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ 30 พ.ย. 2567)
เครือข่ายสาขาของบริษัทฯ ซึ่งครอบคลุมทุกภูมิภาค
การขายสินค้าผ่านออนไลน์แพลตฟอร์ม (Online Platform) ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Shopee และ Lazada
ร้านป๊อปอัพ สโตร์ (Pop-up Store) ซึ่งเป็นร้านค้าที่จัดขึ้นชั่วคราวบริเวณพื้นที่ส่วนกลางของห้างสรรพสินค้า ที่บริษัทฯ ยังไม่มีสาขา
Our Milestones
2516
2530
2543
2559
2560
2561
2562
2563
2564
2565
2566
2567
2516
- กลุ่มครอบครัวฯ เริ่มประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าประเภทเครื่องเขียน สินค้ากิ๊ฟช็อป ภายใต้ชื่อร้านพร้อมภัณฑ์ ต่อมากลุ่มครอบครัวฯ เล็งเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ จึงเริ่มจำหน่ายสินค้าที่มีการออกแบบโดยเฉพาะ และจำหน่ายสินค้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อจำหน่ายให้แก่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และร้านค้าต่างๆ
2530
- กลุ่มครอบครัวฯ ยังได้ขยายธุรกิจไปยังร้านค้าส่งแบบดั้งเดิมในตลาดสำเพ็ง โดยนำแนวคิดการตกแต่งร้านมา และยกระดับมาตรฐานร้านค้าให้เหมือนย่านค้าส่งในประเทศญี่ปุ่น ทำให้ร้านค้าส่งของกลุ่มครอบครัวฯ เป็นที่นิยม และแตกต่างจากร้านค้าอื่นๆ
2543
- กลุ่มครอบครัวฯ ก่อตั้งบริษัทฯ (เดิมชื่อบริษัท บีกิฟท์ จำกัด) ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจร้านค้าส่งแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) ในตลาดสำเพ็ง
2559
- บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ จึงเริ่มประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) ที่มีความหลากหลาย ทันสมัย และราคาย่อมเยา โดยเปิดสาขาแรกที่สำเพ็ง และเปิดสาขาร้าน Moshi ทั้งหมดรวม 4 สาขา
- จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท โมชิ โมชิ เจแปน จำกัด และเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1 ล้านบาท เป็น 10 ล้านบาท
2560
- เปิดสาขาร้าน Moshi Moshi เพิ่มจำนวน 22 สาขา ส่งผลให้มีสาขาทั้งสิ้น 26 สาขา
- เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 10 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท
2561
- เปิดสาขาร้าน Moshi Moshi เพิ่มจำนวน 31 สาขา ส่งผลให้มีสาขาทั้งสิ้น 57 สาขา
- เริ่มจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์แท้ของ We Bare Bears
2562
- เปิดสาขาร้าน Moshi Moshi เพิ่มจำนวน 24 สาขา ส่งผลให้มีสาขาทั้งสิ้น 81 สาขา
2563
- เปิดสาขาร้าน Moshi Msohi เพิ่มจำนวน 10 สาขา และปิดสาขาจำนวน 1 สาขา เนื่องจากห้างสรรพสินค้าปิดทำการ ส่งผลให้มีสาขาทั้งสิ้น 90 สาขา
- เปิดสาขาร้าน GIANT จำนวน 1 สาขา ที่ห้างแพลตตินั่มแฟชั่นมอลล์ เพื่อประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกแบบมีส่วนลดสินค้าทั่วไปที่เน้นการใช้งาน (Function) ในชีวิตประจำวัน
- ได้รับลิขสิทธิ์จาก Disney สำหรับคาแรคเตอร์ต่างๆ ได้แก่ Disney's Mickey & Friends, Disney's Winnie The Pooh, Pixar's Monster Inc, Disney's Tsum Tsum
- รับโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer) จากบริษัท บีเอสเค แอสเซท จำกัด เพื่อรับโอนศูนย์กระจายสินค้า เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับโครงสร้างเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
2564
- เปิดสาขาร้าน Moshi Moshi เพิ่มจำนวน 5 สาขา และปิดสาขาจำนวน 1 สาขา ส่งผลให้มีสาขาทั้งสิ้น 94 สาขา
- ได้รับลิขสิทธิ์จาก ©2003 Peanuts Worldwide LLC สำหรับคาแรคเตอร์ SnoopyTM
- ได้รับลิขสิทธิ์จาก Sanrio สำหรับคาแรคเตอร์ Hello Kitty
2565
- ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีจำนวนสาขาร้าน Moshi รวมทั้งสิ้น 105 สาขา และสาขาร้าน GIANT จำนวน 1 สาขา บริษัทฯ ได้จดทะเบียนแปรสภาพจากบริษัทจำกัดเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และเปลี่ยนชื่อจาก บริษัท โมชิ โมชิ เจแปน จำกัด เป็น บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565
- เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญของบริษัทฯ จากเดิมหุ้นละ 1,000 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท ส่งผลให้จำนวนหุ้นสามัญของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก 225,000 หุ้น เป็น 225,000,000 หุ้น
- เพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 75 ล้านบาท ส่งผลให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นจาก 225 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท
- บริษัทฯ เข้าทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันแรก (First Trading Day) ในวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ภายใต้ชื่อย่อ MOSHI โดยมี Market Capitalization ประมาณ 6,300 ล้านบาท (ณ ราคาเสนอขาย IPO)
2566
- ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 มีจำนวนสาขาร้าน Moshi รวมทั้งสิ้น 126 สาขา ร้าน GIANT จำนวน 1 สาขา ร้าน The OK Station จำนวน 1 สาขา และ ร้าน Garlic จำนวน 3 สาขา
- เข้าซื้อกิจการร้าน The OK Station ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายของขวัญและเครื่องเขียนขายส่งรายใหญ่ในสำเพ็ง ในเดือนเมษายน 2566
- เพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 30 ล้านบาท ส่งผลให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นจาก 300 ล้านบาท เป็น 330 ล้านบาท
- เปิดตัวร้าน Garlic ที่จำหน่ายสินค้า Lifestyle ในดีไซน์แบบ Chic&Cool รวม 3 สาขาได้แก่ สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต สาขาเสริมไทยคอมเพล็กซ์ จ.มหาสารคาม และสาขาเมญ่า จ.เชียงใหม่
- วางตลาดสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษ ที่ร่วมคอลแลปส์กับ 3 ครีเอเตอร์ไทย ได้แก่ STICKWITHME4EV, SSKTMMEE และ Monsty Planet
- ได้รับลิขสิทธิ์จาก Sanrio สำหรับคาแรคเตอร์ Cinnamoroll , My Melody และ Gudetama
- ได้รับลิขสิทธิ์จาก SM ENTERTAINMENT สำหรับพัฒนาสินค้า Collection คาแรคเตอร์ NCT DREAM
2567
- ณ วันที่ 14 กันยายน 2567 มีจำนวนสาขาร้าน Moshi รวมทั้งสิ้น 152 สาขา ร้าน GIANT จำนวน 1 สาขา ร้าน The OK Station จำนวน 1 สาขา และ ร้าน Garlic จำนวน 3 สาขา
- บริษัทได้พัฒนารูปแบบร้านใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2567บริษัทได้เปิดตัวร้านรูปแบบใหม่โดยเปิดร้านสแตนด์อโลนแห่งแรกภายใต้แบรนด์ Moshi ที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
- บริษัท ทำสัญญากิจการร่วมค้ากับบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) โดย สัญญาฉบับนี้มีผลบังคับวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เพื่อร่วมดำเนินกิจการโครงการ “กิจการร่วมค้า โมชิ โมชิ แอนด์ อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ โปรเจ็ค ดีเวลลอปเม้นท์” โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดนิทรรศการ Hello Kitty Exhibition Celebration of Friendship and Sario Characters the Funtastic Exhibition โดยบริษัทมีส่วนได้เสีย ร้อยละ 50 ในกิจการร่วมค้าดังกล่าว
- วางตลาดสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษ ที่ร่วมคอลแลปส์กับครีเอเตอร์ไทย ได้แก่ Butterclub